ผู๋เอ๋อปี 2014

มีกลิ่นที่แตกต่างไปจากชาชนิดอื่นๆ รสชาติกลมกล่อม สำหรับผู้เริ่มดื่มชาชนิดนี้ครั้งแรกจะไม่ประทับใจในรสชาตินัก แต่เมื่อได้ลองดื่มในครั้งต่อไปจะรู้สึกติดใจรสชาติที่ละมุนมากขึ้น รวมทั้งมีกลิ่นที่หอมน่าลิ้มลองเป็นอย่างมาก ชาผู๋เอ่อShu Pu Erh Teaปี 2014นี้มีอายุนานถึง 4 ปี มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เมื่อชงดื่มเป็นประจำจะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ช่วยลดความดันและไขมันในเลือด ช่วยขจัดสารพิษในร่ายกายและช่วยลดน้ำหนักได้ แต่ในขณะเดียวกันนั้นบางคนดื่มในระหว่างวันทำให้สดชื่นมีพลังในการทำงานได้อีกด้วย อีกทั้งช่วยชลอการเกิดริ้วรอย ปรับปรุงสภาพผิว ทำให้อายุยืนยาว ที่สำคัญไม่มีคาเฟอีนจึงช่วยให้นอนหลับสบายอีกด้วย

วิธีการชงชาผู่เอ๋อ

1. ชาผู่เอ๋อชนิดนี้จะอัดเป็นก้อนกลม แข็งพอสมควร ดังนั้นควรใช้อุปกรณ์เฉพาะสำหรับแซะใบชา เริ่มจากนำอุปกรณ์นี้ค่อยๆแซะเข้าไปบริเวณด้านข้างก้อนชาผู่เอ๋อ จากนั้นแซะขึ้นมา ใบชาก็จะหลุดออกจากก้อนชา ทำแบบนี้เพื่อให้ได้ใบชาที่เต็มใบ ไม่ฉีดขาดนั่นเอง
2. หลังจากได้ใบชาเรียบร้อยแล้ว ให้ต้มน้ำสะอาดให้เดือด โดยการชงชาผู่เอ๋อนั้นควรใช้น้ำเดือดจัดในการชง
3. ใช้ชาผู่เอ๋อประมาณ 3-5 กรัม ใส่ลงไปในกาน้ำ ล้างใบชาสองครั้ง (เทน้ำพอท่วมใบชา แล้วเททิ้งทันที) เพื่อเป็นการล้างเศษฝุ่นละอองที่เกิดจากกระบวนการหมักและบ่ม อีกทั้งทำให้ประโยชน์ในใบชาตื่นตัว
4. ใส่น้ำปริมาณ 300 มิลลิลิตร แช่ทิ้งไว้ประมาณ 45 วินาที ถึง 1 นาที
5. กรองดื่มแต่น้ำชา โดยจะไม่แช่น้ำทิ้งไว้ในกาน้ำ ซึ่งจะทำให้น้ำชาเข้มข้นมากจนเกินไป อาจเสียรสชาติของชาได้
6. ในทุกครั้งที่ชงชาควรแช่น้ำชาประมาณ 45 วินาที ถึง 1 นาที ทั้งนี้เวลาสามารถยืดหยุ่นได้ตามความชอบส่วนบุคคล ถ้าชอบเข้มมากสามารถแช่น้ำชาไว้ได้นานตามที่ต้องการ
7. ใบชาที่ใช้สามารถใช้ได้ 4-5 ครั้งแต่ไม่ควรเกิน 1 วัน
8. ควรเก็บรักษาชาผู่เอ๋อในที่มืด ไม่มีแสงใดๆ เพราะอาจทำให้สีของใบชาเปลี่ยนได้ รวมทั้งควรเก็บไว้ในที่แห้ง ไม่มีกลิ่นแปลกปลอม เพื่อรสชาติที่ดีของชา สำคัญที่สุดคือควรเก็บรักษาโดยใช้กระดาษห่อไว้แล้วใส่ถุงพลาสติกอีกชั้น เพื่อกันอากาศเข้าไปทำให้กลิ่นของชาระเหย เมื่อนำมาชงดื่มกลิ่นจะเจือจางและไม่หอมชวนให้ดื่ม

เพลิดเพลินกับชาของคุณ ทีวิลเลจทีม.